แผนการเดินทาง
ทำของที่ระลึกเป็นร่มวากาสะแบบยั่งยืนในเมืองฮิรัตสึกะ
การท่องเที่ยวยั่งยืนอาจมีความหมายหลากหลาย แต่สำหรับเรา…มันคือการออกเดินทางสู่จุดหมายที่ยังไม่ถูกค้นพบจากผู้คนที่มากจนเกินไป ห่างไกลจากเส้นทางยอดนิยม โดย “เส้นทางทองคำ” แห่งนี้จะพาคุณไปสัมผัสเสน่ห์ของงานหัตถศิลป์ดั้งเดิมที่ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลิ้มรสซีฟู้ดสดใหม่จากทะเลใกล้ชายฝั่งเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และดื่มด่ำกับธรรมชาติอันงดงามที่เมืองฮิรัตสึกะ
มาร่วมค้นพบเสน่ห์ของการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไปด้วยกันที่เมืองฮิรัตสึกะ จังหวัดคานากาวะ
ยินดีต้อนรับสู่เมืองฮิรัตสึกะ
เมืองฮิรัตสึกะตั้งอยู่ในจังหวัดคานากาวะ เป็นเมืองที่อุดมไปด้วยธรรมชาติอันสมบูรณ์ ชายฝั่งทะเลอันงดงาม งานหัตถศิลป์ญี่ปุ่นดั้งเดิม และเมนูซีฟู้ดขึ้นชื่อที่อร่อยไม่แพ้ที่ใด ใช้เวลาเดินทางเพียงราว 1 ชั่วโมงครึ่งจากโตเกียว เมืองแห่งนี้คือหนึ่งในจุดหมายที่ควรอยู่ในลิสต์ “ต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง” ของคุณแน่นอน
นี่คือตัวอย่างส่วนหนึ่งของสิ่งที่คุณสามารถทำได้ในหนึ่งวันที่เมืองฮิรัตสึกะ คุณจะได้หลีกหนีจากตึกระฟ้าและความวุ่นวายของเมืองหลวง
สัมผัสศิลปะหัตถกรรมอันประณีตของโชนัน วากาสะ เอะอิ ยุ
ร่มวากาสะคือหัตถศิลป์ญี่ปุ่นดั้งเดิมที่มีประวัติยาวนานหลายศตวรรษ ในอดีตร่มเหล่านี้ถูกใช้โดยเกอิชาและซามูไรในสมัยเอโดะ (1603–1868) เพื่อป้องกันฝนและแสงแดด ก่อนจะเริ่มแพร่หลายสู่คนทั่วไปในช่วงครึ่งหลังของยุคนั้น ในเวลานั้นมีช่างทำร่มอยู่ทั่วทุกหัวมุมเมือง แต่เมื่อร่มไวนิลจากตะวันตกเริ่มเข้ามา ซึ่งผลิตได้ง่ายกว่าและทนต่อสภาพอากาศมากกว่า ทำให้ร่มกระดาษญี่ปุ่นดั้งเดิมจึงค่อยๆ เลือนหายไปตามกาลเวลา
ในยุคปัจจุบันมีช่างทำร่มวากาสะเหลืออยู่เพียงไม่กี่คนทั่วประเทศญี่ปุ่น และมีจำนวนน้อยยิ่งกว่าที่ยังคงสร้างสรรค์ร่มเหล่านี้ด้วยมือทุกขั้นตอนอย่างประณีต หนึ่งในนั้นคือ ฮิเดะโนริ สุกิซากิ แห่งโชนัน วากาสะ เอะอิ ยุ ซึ่งเป็นสตูดิโอเพียงแห่งเดียวในจังหวัดคานากาวะที่ยังคงรักษาศิลปะการทำร่มวากาสะแบบดั้งเดิมไว้อย่างแท้จริง และตอนนี้พวกเขาได้เปิดประตูต้อนรับนักเดินทางอย่างคุณ ให้ได้เข้ามาเวิร์คช้อปสัมผัสและเรียนรู้กระบวนการทำร่มญี่ปุ่นโบราณด้วยตัวเอง
คุณจะได้ลงมือทำโคมไฟสไตล์ดั้งเดิมอันงดงาม โดยใช้วัสดุแบบเดียวกับที่ใช้ทำร่มวากาสะแบบดั้งเดิม ไม่ว่าจะเป็นไม้ไผ่ ไม้ และวัสดุญี่ปุ่นเฉพาะอย่างกระดาษวาชิและเชือกมิซุฮิกิ เริ่มจากการเลือกกระดาษวาชิลายโปรดจากดีไซน์ที่สะดุดตาหลากหลายแบบ แล้วลองยกส่องกับแสงเพื่อดูว่าลวดลายจะมีชีวิตชีวาขึ้นมาอย่างไร ค่อยๆ เลือกอย่างพิถีพิถัน เพราะนี่คือผลงานที่คุณจะเก็บไว้ได้ตลอดไป และศิลปะทำมือแบบวากาสะก็มักจะเดินเคียงคู่กับความอดทนเสมอ
ขั้นตอนต่อไป คุณจะได้เรียนรู้การร้อย “ซี่ร่ม” ของโคมไฟ หรือที่เรียกว่า โคบุ (ซี่เล็ก) เข้ากับโรกุโระ (วงล้อ) งานนี้ต้องใช้ทั้งเข็ม ด้าย สมาธิ ความตั้งใจ และมือที่นิ่ง เมื่อแต่ละจังหวะของการร้อยผ่านไป คุณจะค่อยๆ ซึมซับจังหวะชีวิตที่ช้าลง เสมือนย้อนกลับไปใช้ชีวิตในแบบช่างฝีมือยุคเอโดะ
เมื่อจบขั้นตอนนั้นแล้ว ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องตัดสินใจอีกครั้งว่าอยากให้ขอบของโคมไฟสีอะไรดี ลองสนุกกับการเลือกเฉดสีที่เข้ากันหรือแต่งต่างกับลวดลายกระดาษวาชิที่เลือกไว้ก่อนหน้า สีที่เลือกอาจช่วยขับให้ลายเด่นขึ้น หรือจะสร้างลุคที่กลมกลืนในโทนเดียวกันก็ได้ ทั้งหมดขึ้นอยู่กับสไตล์เฉพาะตัวของคุณเอง เมื่อเลือกได้แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการตัดกระดาษให้ได้ขนาดพอดี พับขอบกระดาษวาชิทบเข้ากับเชือก แล้วติดกาวให้เรียบสวย กระบวนการนี้ต้องอาศัยทั้งความใจเย็นและความละเอียดอ่อน แต่ไม่ต้องกังวล เพราะคุณฮิเดะจะคอยแนะนำอยู่ข้างๆ คุณ หากรู้สึกว่าความตั้งใจ (หรือขอบโคมไฟ) เริ่มจะคลายออก
เสร็จเรียบร้อยแล้วไหม? ตอนนี้โคมไฟของคุณกำลังเริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เพียงนำกระดาษวาชิลวดลายที่คุณเลือกไว้ตั้งแต่แรกมาติดลงบนโครงร่มอย่างประณีต เมื่อติดเรียงและจัดแนวให้สวยงามแล้ว ก็ถึงเวลาพักเบรคระหว่างรอให้กาวแห้ง
คุณจะมีเวลาประมาณ 1–2 ชั่วโมง เพื่อออกไปเดินเล่นสำรวจรอบๆ พื้นที่ หรือจะไปทานมื้อกลางวันก็ได้ คุณฮิเดะจะช่วยแนะนำ (และอาจพาไปเองด้วย) ร้านอาหารท้องถิ่น ส่วนหนึ่งในร้านที่เราอยากแนะนำเป็นพิเศษคือร้านฮิรัตสึกะ เกียวโคะ โนะ โชคุโดะ ที่เสิร์ฟอาหารทะเลสดใหม่คุณภาพเยี่ยมจากทะเลญี่ปุ่น รายละเอียดเพิ่มเติมกำลังจะตามมาเร็วๆ นี้…
เมื่อกลับมา ก็ถึงเวลาสำหรับขั้นตอนสุดท้ายในการเก็บรายละเอียดผลงานให้สมบูรณ์:
-
พับจีบตัวโครงหลักและส่วนรอบนอกของโคมไฟ เพื่อให้สามารถพับได้อย่างสวยงามและเป็นรูปทรง
-
เลือกกระดาษวาชิสองลายสำหรับทำส่วนคัปปะ ซึ่งเป็นชิ้นส่วนเล็กๆ ที่ใช้ปิดวงล้อด้านบนของโคมไฟ คุณจะได้พับให้เป็นลวดลายเฉพาะตัวคล้ายศิลปะโอริกามิ
-
ผูกส่วนคัปปะ เข้ากับวงล้อด้วยเชือกมิซุฮิกิ โดยคุณจะได้เลือกสีเองอีกครั้ง เพื่อปิดท้ายดีไซน์ของคุณให้สมบูรณ์
เมื่อเสร็จขั้นตอนนี้ คุณก็ได้สร้างโคมไฟสไตล์ดั้งเดิมด้วยสองมือของตัวเองแล้ว ผลงานชิ้นนี้สะท้อนเอกลักษณ์เฉพาะตัวของคุณอย่างแท้จริง ตั้งแต่การเลือกกระดาษวาชิหลัก สีของขอบ โครงกระดาษสองลายสำหรับส่วนคัปปะ (ฝาครอบด้านบน) ไปจนถึงเชือกมิซุฮิกิ ทั้งหมดนี้ทำให้โคมไฟวากาสะของคุณเป็นผลงาน “ชิ้นเดียวในโลก” ที่ไม่มีแบบใดเหมือน จงภูมิใจกับผลงานที่คุณได้ร่วมสืบสานศิลปะหัตถกรรมโบราณของญี่ปุ่น งานที่สืบทอดจากช่างฝีมือรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่น ด้วยความตั้งใจ ความประณีต และหัวใจแห่งความยั่งยืน
หากคุณมีเวลาทั้งวันในเมืองฮิรัตสึกะ เราขอแนะนำคอร์สแบบ 5 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้คุณได้สร้างผลงานจนเสร็จสมบูรณ์ พร้อมถือกลับบ้านได้เลยหลังจากแห้งเรียบร้อย แต่หากมีเวลาไม่มากนัก คอร์ส 3 ชั่วโมง ก็เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน คุณจะได้สัมผัสเสน่ห์ของงานหัตถศิลป์แบบดั้งเดิม โดยให้คุณฮิเดะ ช่างฝีมือวากาสะผู้เชี่ยวชาญ เป็นผู้ดูแลขั้นตอนเริ่มต้นที่ซับซ้อนให้แทน ในคอร์สนี้คุณจะได้ร่วมลงมือในช่วงสำคัญ เช่น การติดกระดาษวาชิบนโครงด้านในของโคมไฟ และตกแต่งขั้นตอนสุดท้ายในสไตล์ของคุณเอง เพื่อให้ผลงานชิ้นนี้มีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
ลิ้มรสความอุดมสมบูรณ์จากท้องทะเลท้องถิ่นได้ที่ฮิรัตสึกะ เกียวโคะ โนะ โชคุ
แม้แต่ในวันธรรมดา ที่ฮิรัตสึกะ เกียวโคะ โนะ โชคุก็มีคิวยาวออกมานอกประตูอยู่เสมอ รับรองได้เลยว่าคุณจะได้ลิ้มรสซีฟู้ดสดใหม่และคุณภาพดี ที่ร้านยอดนิยมแห่งนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากชายหาดฮิรัตสึกะ ซึ่งดึงดูดทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวให้แวะมาชิมปลาสดที่จับได้ในวันเดียวกัน พร้อมปรุงอย่างพิถีพิถันในหลากหลายเมนู
ตั้งแต่จานซาชิมิสุดประณีตที่เสิร์ฟบนฐานไดคันหัวไชเท้าท้องถิ่นขูดละเอียด รวมถึงยังมีปลาสดอย่างแซลมอนและทูน่า คู่กับวัตถุดิบขึ้นชื่อของฮิรัตสึกะ เช่น ปลาชิราสุ ปลาหมึก และปลาไทแดง ไปจนถึงชุดอาหารญี่ปุ่นแบบเทโชะคุ ที่ครบเครื่องทั้งปลาทูทอดกรอบ ข้าวญี่ปุ่นหอมนุ่ม ซุปมิโสะร้อนๆ ผักดอง และเครื่องเคียงให้เลือกเพิ่มได้ตามใจ ไม่ว่าคุณจะเป็นสายซาชิมิสดๆ หรือชอบมื้ออาหารสไตล์โฮมเมด ที่นี่มีเมนูตอบโจทย์ทุกความต้องการ
ไม่ว่าคุณจะเลือกเมนูไหน รับรองได้ว่าลิ้นของคุณจะได้ดื่มด่ำกับรสชาติแห่งความอุดมสมบูรณ์จากท้องทะเลฮิรัตสึกะอย่างเต็มที่ ทำให้คุณอิ่มทั้งท้องและอิ่มใจกลับบ้านแน่นอน
แค่เพียงมองก็รู้เลยว่าซาชิมิที่ฮิรัตสึกะ เกียวโคะ โนะ โชคุสดใหม่ไม่เหมือนที่ไหน หากคุณเป็นคนรักอาหารทะเลญี่ปุ่น ร้านนี้เพียงแห่งเดียวก็ถือว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมาเยือนฮิรัตสึกะแล้วจริงๆ
ไม่มีรูปภาพ
สัมผัสความงดงามของธรรมชาติที่ชายหาดฮิรัตสึกะ
หลังจากอิ่มอร่อยกับมื้อกลางวันแสนประทับใจ การเดินเล่นริมชายหาดฮิรัตสึกะหรือจะพักผ่อนคลายร้อนท่ามกลางคลื่นทะเลยามบ่ายก็ดูจะเป็นไอเดียที่น่าสนใจไม่น้อย ชายหาดแห่งนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในจุดชมวิวที่สวยที่สุดของเมืองฮิรัตสึกะ ทะเลทอดยาวสุดสายตาอีกฟากหนึ่งคือแนวเทือกเขาที่ตัดกับขอบฟ้า และหากอากาศแจ่มใส คุณยังสามารถมองเห็นภูเขาไฟฟูจิได้จากระยะไกลอีกด้วย ภาพวิวตรงหน้านี้งดงามราวโปสการ์ด โดยไม่ต้องพึ่งฟิลเตอร์เลย
แน่นอนว่าการนอนพักบนผืนทรายสีทองของชายหาดฮิรัตสึกะ หรือโต้คลื่นด้วยเซิร์ฟบอร์ดท่ามกลางเกลียวคลื่นก็คือวิธีใช้เวลาทั้งวันที่แสนเพอร์เฟกต์ แต่เหตุผลที่ควรมาเยือนที่นี่ไม่ได้มีแค่นั้น ยามเย็นพระอาทิตย์ตกดินเหนือเนินทรายฮิรัตสึกะจะเปล่งประกายแสงสีทองอบอุ่น สร้างฉากหลังแสนโรแมนติกให้กับทุกความทรงจำของคุณ และถ้ามาในเดือนพฤษภาคม คุณจะได้ชมดอกฮามา-ฮิรุกะโอบานสะพรั่งทั่วชายหาด เพิ่มอีกหนึ่งเหตุผลให้กลับมาเยือนอีกครั้ง หากพลาดไปในครั้งแรก
เมื่อพระอาทิตย์ค่อยๆ ลับเหลี่ยมเขาในยามเย็นของวันที่แสนประทับใจในฮิรัตสึกะ ลองหยุดพักสักครู่ ปล่อยให้สายลมทะเลพัดพาความกังวลทั้งหมดให้ลอยหายไปกับคลื่น นี่คือประสบการณ์ที่จะอยู่ในความทรงจำของคุณไปอีกนาน และเป็นสถานที่ที่คุณจะอยากกลับมาเยือนซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า
