ศาลเจ้าฮะโกะเนะจินจา

ศาลเจ้าฮาโกเนะ เป็นศาลเจ้าโบราณที่เพิ่งมีการเฉลิมฉลองครบรอบ 1,266 ปี โดยถูกก่อตั้งในปี 757 ปีแรกแห่งยุคเท็นเปียว-โฮจิ โดยในช่วงต้นของยุคนารา (710-794) ระหว่างที่ มะมะคิ โชนิน ได้บำเพ็ญเพียรบนภูเขาฮาโกเนะ เทพเจ้าแห่งฮาโอเนะอันยิ่งใหญ่ ได้มอบหมายให้เขาย้ายศาลเจ้าไปยังที่ตั้งในปัจจุบัน ในบริเวณริมทะเลสาบอาชิ ในสมัยคามาคุระ มินาโมะโทะ โนะ โยริโทะโมะ มีความศรัทธาในศาลเจ้าฮาโกเนะเป็นอย่างมาก จึงทำให้เกิดประเพณีนิโชะโมะเดะ (พิธีจาริกแสวงบุญระหว่างศาลเจ้าสองแห่ง) และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ศาลเจ้าแห่งนี้ก็ได้รับการเคารพนับถือ และเจริญรุ่งเรืองเป็นที่เคารพสักการะของเหล่าขุนนาง เช่น ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์โฮโจะ และขุนศึกโทคุกาวะ เละยาสุ ตลอดจนเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์สำหรับพิธีชุเก็น (การบำเพ็ญตบะบนภูเขาของญี่ปุ่น) โดยในปัจจุบันได้มีการก่อสร้างถนนฮาโกเนะ ศาลเจ้าฮาโกเนะจึงกลายเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ประชาชนทั่วไปสามารถเยี่ยมชมได้ โดยมีความเชื่อว่าภูเขาฮาโกเนะเป็นเทพเจ้าที่มีคุณธรรมสูงส่ง ที่สามารถปัดเป่าเคราะห์ร้าย เติมเต็มความปรารถนา และช่วยให้เดินทางปลอดภัย จึงกลายเป็นอีกหนึ่งสถานที่ยอดนิยมในการขอพร สามารถเดินจากเฮวะโนะโทริอิ (ประตูแห่งความสงบ) ที่ทะเลสาบอาชิโนโกะไปยังศาลเจ้าหลักได้ โดยจะผ่านเส้นทางที่ขนาบข้างไปด้วยต้นซีดาร์ ที่มีอายุกว่า 600 ปี ที่ช่วยสร้างบรรยากาศให้ศาลเจ้ามีลักษณะสง่างาม บริเวณด้านหลังของศาลเจ้าหลักกอนเง็นซูคุริที่มีสีแดงสด เป็นพื้นที่ของป่าบริสุทธิ์แห่งฮิเมะฮาระ ซึ่งเป็นสมบัติทางธรรมชาติของจังหวัดคานากาวะ โดยมีบ่อน้ำโกเง็น มิตาราชิ และทะเลสาบอาชิที่สะท้อนภาพประตูสันติภาพสีแดงสด และภูเขาไฟฟูจิอันศักดิ์สิทธิ์อยู่บนผิวน้ำ บริเวณโดยรอบศาลเจ้ารายล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม จึงทำให้นักท่องเที่ยวมากมายจากทั่วโลกต้องมาสักการะที่ศาลเจ้าคุซุริว (ชินกุ และฮอนกุ) ซึ่งเป็นศาลเจ้าที่คนมาขอพรให้โชคดี เจริญรุ่งเรือง เก็บเงินทองอยู่ ค้าขายร่ำรวย และหาคู่ โดยเฉพาะในช่วงสึคินามิไซ ที่จัดขึ้นในวันที่ 13 ของทุกเดือน [คุณธรรมศักดิ์สิทธิ์] ผู้คนมักจะมาขอให้โชคดี ไม่มีโชคร้าย, ขอให้สมปรารถนา (ป้องกันโชคร้าย), เดินทางปลอดภัย, หาคู่, ครอบครัวปลอดภัย และธุรกิจเจริญรุ่งเรือง จาก 

เคล็ดลับการเดินทาง

ในวันที่ 31 กรกฎาคม ที่ศาลเจ้าแห่งนี้จะจัดงานเทศกาลอาชิโนะโคะ โคซุย มัตสึริ เพื่อเฉลิมฉลองมังกรในตำนาน โดยที่พระภิกษุจะล่องเรือโจรสลัดไปในทะเลสาบเพื่อโปรยข้าวแดงลงไป มีการแสดงแสงไฟจากโคมไฟลอยบนผิวน้ำทะเลสาบ ขณะเดียวกันเมื่อมองขึ้นไปด้านบนก็มีแสงไฟจากพลุทอประกายอยู่บนท้องฟ้าอีกด้วย