แผนการเดินทาง
ใช้เวลากับครอบครัวได้ที่นาไค
เมืองนาไค ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตะวันตกของจังหวัดคานากาวะ เป็นเมืองเล็กๆ ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความงดงามของสวนสาธารณะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติรังสรรค์ และความสดใหม่ของผลผลิตในท้องถิ่น ทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ควรค่ากับการพาครอบครัวมาสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ คุณสามารถเพลิดเพลินกับภูมิทัศน์อันทรงเสน่ห์ของทิวเขา, พื้นที่เพาะปลูก และวิถีชีวิตแบบคนเมือง นอกจากนี้ยังสามารถชมวิวทิวทัศน์ของภูเขาไฟฟูจิได้ ในวันที่อากาศแจ่มใส! แต่เนื่องจากเมืองนี้มีรถโดยสารสาธาระณะค่อนข้างจำกัด เราจึงแนะนำให้คุณเดินทางมาเที่ยวด้วยรถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกกว่า
ตามมาดูที่เที่ยวในเมืองที่แปลกตาแห่งนี้ ทริปถัดไป…การผจญภัยพร้อมครอบครัวรอคุณอยู่!
สวนอิทสึคุชิมะ ชิเซอิ
ฉันเริ่มต้นทริปที่สวนอิทสึคุชิมะ ชิเซอิ พื้นที่ชุ่มน้ำแห่งนี้ ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นการฟื้นฟู และอนุรักษ์สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติในบริเวณนี้ โดยมีลักษณะเป็นทางเดินไม้ สถานที่นี้มีที่จอดรถสองแห่งทางฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ และทางตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เหมาะกับการเดินทางมาโดยรถยนต์ส่วนตัว เมื่อเข้ามาด้านในสวน เสาโทริอิสีแดง (ประตู) ที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของปลายสุดทางเดิน ก็ดึงดูดสายตาของฉันเป็นอย่างแรก ฉันรู้สึกประทับใจกับบรรยากาศที่ดูลึกลับ และวิวบริเวณเกาะที่มีต้นไม้ขึ้นอยู่ ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยน้ำใสแจ๋ว มันทำให้ฉันนึกถึงฉากๆ หนึ่งในภาพยนตร์ของสตูดิโอจิบลิ
หลังจากเยี่ยมชมศาลเจ้าเล็กๆ ของเกาะกลางแล้ว ฉันเดินต่อไปตามทางยกระดับ และเห็นเจ้าเป็ดจำนวนมาก กำลังแหวกว่ายอยู่บนริ้วน้ำที่กำลังกระเพื่อม โดยมีภูเขาที่ปกคลุมด้วยป่าเป็นฉากหลัง เป็นวิวทิวทัศน์ที่ถูกจัดวางโดยธรรมชาติอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นน้ำที่ใสเหมือนคริสตัล, หญ้าเขียวชอุ่ม, และต้นไม้ถูกแต่งแต้มด้วยโทนสีส้มต่างก็ทำให้ฉันรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย นอกจากนี้ที่สวนสาธารณะยังมีพื้นที่นั่งเล่น ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการมาปิกนิกกับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง!
นาไค เซ็นทรัล ปาร์ค
หลังจากที่เราได้เริ่มทริปกันอย่างผ่อนคลายที่สวนอิทสึคุชิมะ ชิเซอิ ฉันขับรถต่ออีกประมาณ 5 นาที เพื่อไปยังนาไค เซ็นทรัล ปาร์ค หรือสวนนาไค ชู สวนสาธารณะที่คึกคักแห่งนี้ มีทั้งสนามหญ้าขนาดกว้างขวาง, สนามกอล์ฟ, สนามเด็กเล่น, คาเฟ่, จุดชมภูเขาไฟฟูจิ, และอีกมากมาย! จุดแวะแรกของฉันที่สถานที่นี้คือ จุดชมวิวของนาไค เซ็นทรัล ปาร์ค ซึ่งอยู่ห่างจากที่จอดรถเพียง 5 นาที สามารถเดินขึ้นไปได้จากทางเดินใกล้ๆ กับที่จอดรถ จากจุดชมวิวนี้ทำให้ฉันได้เห็นมุมที่น่ารักของภูเขาไฟฟูจิ โดยต้องมองผ่านรูปปั้นรูปหัวใจที่ตั้งอยู่ด้านบนของจุดชมวิว และได้เห็นวิวสุดกว้างไกลของสวนสาธารณะ และทิวทัศน์ธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไป ตลอดเส้นทางการเดินไปยังจุดชมวิว มีสนามเด็กเล่นเล็กๆ และสไลเดอร์ที่ลาดยาวลงมาตามไหล่เขา
หลังจากการเดินขึ้นเขา ฉันตัดสินใจแวะพักที่ นาไค ซาโตะมาชิ คาเฟ่ เพื่อเติมพลังด้วยของหวาน ภายในร้านถูกตกแต่งด้วยไม้ พร้อมด้วยเพดานสูง, ต้นไม้ และหน้าต่างจำนวนมาก ให้บรรยากาศที่ดูโล่งโปร่งสบายเป็นกันเอง ฉันเลือกสั่งชาเย็น มาทานคู่กับพายแอปเปิ้ลที่ทำกันเองในท้องถิ่น และถ้าหากคุณต้องการมื้ออาหารที่หนักท้องกว่านี้ ที่ร้านก็มีอาหารคาวเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นราเมน และแกงกะหรี่ รวมไปถึงของหวาน เช่น ไอศกรีม และพุดดิ้ง แถมด้วยเครื่องดื่มจากคาเฟ่ ที่มีทั้งกาแฟ, ชา, โซดา, น้ำผลไม้, เบียร์สด, และแม้แต่น้ำเปล่าให้บริการฟรี หลังจากการผจญภัยที่สวนสาธารณะทั้ง 2 แห่ง คาเฟ่จึงเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมสำหรับการมานั่งพักเหนื่อย
นาไค อินเตอร์ เซอร์กิต
ถัดไปฉันจะเปลี่ยนทริปชิลๆ ให้กลายเป็นทริปสายซิ่ง หลังจากขับรถไปได้ 6 นาที เราก็มาถึงนาไค อินเตอร์เซอร์กิต สนามแข่งรถสำหรับเด็กๆ และแม้ว่าสนามแข่งรถส่วนใหญ่จะทำไว้เพื่อเด็กๆ อายุ 5-10 ปี แต่ผู้ใหญ่อย่างเราๆ ก็สามารถมาสนุกได้เช่นกัน ที่นี่จึงเหมาะกับการพาทั้งครอบครัวมาเพลิดเพลินไปกับกีฬาแห่งความฮึกเหิมนี้ โดยมีให้เลือกขับตั้งแต่โกคาร์ท, Pokebai (มอเตอร์ไซค์ขนาดเล็ก) และจักรยานสำหรับผู้ใหญ่ ซึ่งจะมีผู้สอนคอยอธิบายวิธีการขับขี่ ที่คุณสามารถทำตามแบบง่ายๆ จึงทำให้ผู้ที่มาขับขี่เป็นครั้งแรกทุกเพศทุกวัยรู้สึกได้ถึงความปลอดภัย โดยคุณสามารถเลือกคอร์สเองได้ตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ เริ่มต้นที่ 5 นาที และสามารถเช่าถุงมือ และหมวกกันน็อคสำหรับการขับขี่ได้ด้วย หากคุณจะมาเที่ยวที่นี่ อย่าลืมสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว และรองเท้ากีฬามาด้วยนะ
สำหรับทริปนี้ฉันเลือกที่จะขับโกคาร์ท 5 รอบ และหลังจากที่ผู้สอนอธิบายระเบียบด้านความปลอดภัย และเทคนิคการขับขี่แล้ว ฉันก็พร้อมออกตัว ขณะที่ฉันออกสำรวจเส้นทาง ฉันสัมผัสได้ถึงรอยยิ้มกว้างบนใบหน้าของฉัน มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนได้ย้อนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง นี่จึงเป็นประสบการณ์ที่สนุก และน่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง!
ทะเลสาบชินเซ
หลังจากขับรถโกคาร์ท ฉันก็กระโดดกลับขึ้นไปขับรถยนต์จริงๆ และขับต่อไปอีกประมาณ 6 นาที เพื่อไปยังจุดหมายสุดท้ายของฉันในวันนี้ ทะเลสาบชินเซ หรือที่เรียกว่า ชินเซ โกะ ในภาษาญี่ปุ่น ทะเลสาบแห่งนี้ ได้ถือกำเนิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ ในปี 1923 หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในแถบคันโต ปัจจุบันทะเลสาบแห่งนี้ เป็นสถานที่พักผ่อนทางธรรมชาติอันน่ารื่นรมย์ และเป็นที่นิยมสำหรับเส้นทางเดินป่า, จุดตกปลา, สัตว์ป่า, ศาลเจ้าชินโต, และฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงาม เช่น ช่วงฤดูดอกซากุระ และช่วงฤดูใบใม้ผลิ
ที่ลานจอดรถของทะเลสาบ มีห้องน้ำสาธารณะ และตู้ขายของอัตโนมัติตั้งอยู่ติดกับจุดเริ่มต้นของทางเดินลูกรัง หลังจากกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานสูงก่อนหน้านี้ ฉันมีความสุขที่ได้ใช้เวลาเดินเล่นท่ามกลางต้นไม้ ที่นี่มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติทอดยาวรอบทะเลสาบ และมีพื้นที่นั่งเล่นหลายจุด ที่ฉันสามารถใช้เวลาผ่อนคลายไปพร้อมกับการชมวิวใบไม้ที่ลอยเรียงรายในน้ำ ที่บริเวณเลียบชายฝั่งทางตะวันออกของทะเลสาบ ฉันได้เดินเข้าไปไหว้ศาลเจ้าชินโต และได้ยืนชื่นชมประกายสีแดงจากโครงสร้างของศาลเจ้า ที่ตัดกันอย่างลงตัวกับต้นไม้สีเขียวขจี ขณะที่ฉันเดินต่อไป ฉันเห็นชาวประมงจำนวนมากกำลังเพลิดเพลินกับแสงแดด ด้วยบรรยากาศที่สวยงาม และความเงียบสงบของทะเลสาบ ทำให้ที่นี่เหมาะกับการเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายของวันที่พร้อมโอบกอดคุณด้วยธรรมชาติ