แผนการเดินทาง
การผจญภัยกลางแจ้งในฮาดาโนะ
หากคุณอยากมาสัมผัสธรรมชาติที่อยู่ใจกลางจังหวัดคานากะวา เราขอแนะนำให้มาท่องเที่ยวที่เมืองฮาดาโนะ โดยเมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้กับใจกลางของจังหวัด เป็นเมืองที่มีความผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตคนเมือง และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติทันซาวะ-โอยามะ ควอซี แหล่งรวมหลากเส้นทางเดินป่า และจุดชมวิวภูเขาไฟฟูจิ ที่สามารถมองเห็นได้ชัดเจนในวันที่อากาศปลอดโปร่ง เมืองฮาดาโนะแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาเที่ยวแบบทริปวันเดียว
แต่เนื่องจากเมืองนี้มีรถโดยสารสาธารณะค่อนข้างน้อย เราขอแนะนำให้คุณเช่ารถ เพื่อการเดินทางที่สะดวก และรวดเร็วยิ่งขึ้น สำหรับทริปสัมผัสบรรยากาศแห่งการผจญภัยครั้งนี้ ฉันตัดสินใจเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยการไปปีนหน้าผาที่จุดปีนเขาฮาดาโนะ ทันซาวะ
จุดปีนหน้าผาฮาดาโนะ ทันซาวะ
จุดปีนหน้าผาฮาดาโนะ ทันซาวะ ตั้งอยู่ในสวนฮาดาโนะ โทคาวะ เป็นจุดปีนหน้าผาที่เหมาะกับนักปีนผามือใหม่ และนักปีนผามืออาชีพ เพราะมีเส้นทางการปีนที่หลากหลาย มีทั้งจุดปีนเขาในร่ม และจุดปีนเขากลางแจ้ง จึงเป็นสถานที่ที่คุณสามารถมาเที่ยวได้ทุกฤดูกาล เมื่อมาถึงฉันจอดรถเช่าตรงที่จอดรถใกล้ๆ แล้วเดินต่ออีกประมาณ 5 นาที พอเข้าไปถึงฉันกรอกแบบฟอร์ม เพื่อรับทราบกฎของทางอุทยานอย่างรวดเร็ว (มีแบบฟอร์มภาษาอังกฤษ) จากนั้นจ่ายค่าปีน 500 เยน ต่อ 1 ชั่วโมง และค่าเช่ารองเท้า 200 เยน พอสวมรองเท้าเสร็จ ฉันก็พร้อมที่จะออกสตาร์ท
หน้าผาจำลองมีความยากทั้งหมด 8 ระดับ โดยมีการทำเครื่องหมายด้วยเทปสีต่างๆ เพื่อกำหนดเส้นทางตามความยาก ในฐานะมือใหม่ ฉันเลือกเส้นทางที่ง่ายก่อน และหลังจากปีนขึ้นไปได้เพียงไม่กี่นาที ฉันกลับรู้สึกเหนื่อยกว่าที่คาดไว้ กิจกกรรมนี้เป็นการออกกำลังที่ร่างกายส่วนบน ควบคู่ไปกับการตั้งสมาธิ และการรักษาสมดุล อย่าลืมมาลองสัมผัสประสบการณ์เรียกเหงื่อ แต่สนุกจนไม่อยากวางมือ โชคดีนะที่ฉันเลือกปีนแค่เพียงชั่วโมงเดียว เพราะตอนที่ฉันอยู่ด้านบน แขนและขาของฉันมันสั่นไม่หยุดเลย
ทันทีที่เดินออกมา อากาศบริสุทธิ์ และทิวเขาที่ห้อมล้อม ก็ออกมาต้อนรับฉันด้วยความยินดี และถัดไปก็คือเวลาอาหารกลางวัน!
ร้านชิโนะโนะเมะ โซบะ
จากจุดปีนหน้าผาฮาดาโนะ ทันซาวะ ฉันใช้เวลาขับรถสั้นๆ เพียง 15 นาที ก็มาถึงร้านชิโนะโนะเมะ โซบะ เป็นร้านโซบะเล็กๆ ตั้งอยู่ในสวนทาฮะระ-ฟูโรซาโตะ ที่นี่เสิร์ฟอาหารหลากหลายประเภทที่ใช้เส้นโซบะแบบธรรมดา และเส้นโซบะบัควีทเป็นส่วนประกอบหลัก
หลังจากถอดรองเท้า พนักงานก็พาฉันไปที่โต๊ะ ที่นี่เป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นดั้งเดิม แบบมีเบาะรองนั่ง อาจจะเป็นเพราะแขนที่เหนื่อยล้าจากการปีนเขา และความหิวที่ถาโถม ฉันจึงเลือกชุดโซบะ ผักเทมปุระ ข้าว และผักดอง ซึ่งเส้นโซบะของที่นี่ มีกลิ่นหอมของวัตถุดิบธรรมชาติเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งเข้ากันดีกับตัวน้ำจุ่มเส้นที่ทำมาจากซอสถั่วเหลือง ส่วนเทมปุระมีความกรอบนอกนุ่มใน ขณะที่ฉันกำลังเพลิดเพลินกับอาหาร ฉันก็ได้ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวยงามของสวนสาธารณะ และภูเขาผ่านหน้าต่างบานสูงของร้านแห่งนี้ เมื่อทั้งมื้ออาหาร และบรรยากาศอันผ่อนคลายนี้ได้มาเจอกันอย่างลงตัว มื้อนี้จึงเป็นวิธีเติมพลังที่ยอดเยี่ยมหลังจากการปีนผา
พอทานอาหารกลางวันเสร็จ ฉันก็เดินเล่นไปรอบๆ และพบกับตลาดขายของสดใหม่ ทางเดินหญ้าที่มีลำธาร และกังหันน้ำ ที่ลูกค้าสามารถมาลองทำโซบะด้วยตัวเองได้ (ต้องจองล่วงหน้า) และวันนี้ฉันก็โชคดีที่ได้เห็นภูเขาไฟฟูจิที่หลบอยู่ด้านหลังก้อนเมฆ หลังจากการพักเหนื่อย ฉันก็พร้อมสำหรับจุดหมายต่อไปแล้ว
นาโนะฮานะ ได
จากนั้นฉันก็ขับรถไปอีกประมาณ 17 นาที เพื่อไปยังหอสังเกตการณ์นาโนะฮานะ ได ในขณะที่รถเคลื่อนตัวขึ้นไปตามถนนบนภูเขาที่คดเคี้ยว มันให้ความรู้สึกราวกับว่าตัวเรากำลังจะผสานเป็นหนึ่งเดียวกับหมู่ก้อนเมฆ ฉันรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้พบกับวิวทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่กำลังรอฉันอยู่ หลังจากจอดรถในที่จอดรถที่อยู่ติดกัน ตรงแถวๆ นั้นมีห้องน้ำสาธารณะไว้คอยให้บริการ ฉันเริ่มก้าวเดินไปที่หอคอยไม้ แม้ว่าตัวฉันจะอยากรีบขึ้นไปให้ถึงยอดเร็วๆ แต่ฉันกลับถูกตรึงไว้ด้วยรูปลักษณ์หน้าตาของหอคอยที่ดูน่าขบขัน ที่ด้านในหอคอย ฉันแหงนคอขึ้นมองจากชั้นแรก เพื่อชื่นชมบันไดที่ขดม้วนเป็นเกลียวอย่างสวยงาม จากนั้นฉันก็เริ่มเดินขึ้นไปยังด้านบน!
จากด้านบน ฉันมองเห็นวิวพาโนรามาอันกว้างใหญ่ของฮาดาโนะโอบล้อม ที่นี่มองเห็นทั้งอ่าวซากามิ หรือแม้แต่เกาะเอะโนชิมะ! ทั้งยังมองเห็นผู้คนที่กำลังใช้ชีวิตอยู่ในเมือง ตัดกับวิวพื้นที่ทางการเกษตร และภูเขา มีท้องทะเลที่อยู่ไกลออกไปจนจรดกับเส้นเฉดสีฟ้าของท้องฟ้าอย่างลงตัว
ที่อีกฝั่งหนึ่งของหอสังเกตการณ์ ฉันถูกต้อนรับด้วยความเขียวชอุ่มจากเหล่าคลื่นภูเขา แม้ว่าวันนี้จะมองไม่เห็นภูเขาไฟฟูจิ เพราะมีเมฆมาก แต่วิวทิวทัศน์ของธรรมชาติที่เปี่ยมล้น ณ ที่แห่งนี้ ก็ได้สร้างความประทับใจให้ฉันได้เป็นอย่างมาก
ซึรุมากิ ออนเซ็น จินยะ
ฉันเลือกที่จะจบทริปวันนี้ ด้วยการเข้าพักที่ซึรุมากิ ออนเซ็น จินยะ ซึ่งใช้เวลาขับรถประมาณ 25 นาที จากนาโนะฮานะ ได เรียวกังขนาดใหญ่แห่งนี้เป็นโรงแรมแบบดั้งเดิม ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางสวนขนาด 3.3 ตารางเมตร (8 เอเคอร์) ที่นี่พร้อมรอต้อนรับคุณในสไตล์ญี่ปุ่นแท้ๆ ด้วยน้ำพุร้อน, ห้องปูเสื่อทาทามิอันหรูหรา และคอร์สอาหารที่ถูกจัดเตรียมมาอย่างพิถีพิถัน สำหรับทริปนี้ฉันเลือกจองห้องพร้อมบริการบ่อน้ำพุร้อนกลางแจ้งที่บริเวณสวนของเรียวกัง บ่อน้ำพุร้อนของที่นี่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวทั่วไปมาใช้บริการได้เช่นกัน ระหว่างทางเดินมีการตกแต่งด้วยหลากพืชพรรณที่น่าหลงไหล, บ่อน้ำ และโครงสร้างโรงแรมแบบดั้งเดิม ฉันเดินจนมาถึงบ่อแช่ออนเซ็น น้ำพุร้อนของซึรุมากิ ออนเซ็น ประกอบไปด้วยแคลเซียม และนาเทรียม ที่จะช่วยบรรเทาอาการตึงของข้อต่อ, ความเมื่อยล้า, อาการหนาวเหน็บ ละอื่นๆ อีกมากมาย
ในขณะที่ฉันหย่อนตัวลงในน้ำพุร้อน ร่างกายของฉันก็รู้สึกเบาสบายขึ้นมาทันที กล้ามเนื้อที่เจ็บปวด และร่างกายที่เหน็ดเหนื่อยจากกิจกรรมปีนหน้าผาในช่วงเช้าดูเหมือนกำลังระเหยไปพร้อมกับไอน้ำที่กำลังลอยตัวขึ้นมา ด้วยสวนอันอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อมทำให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายอย่างเต็มที่ บ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ จึงเป็นสถานที่ในการจบทริปผจญภัยของฉันอย่างสมบูรณ์แบบ และเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณหิว หรือกำลังมองหาที่พักสักหนึ่งคืน ฉันขอแนะนำให้มาลองคอร์สอาหารแบบดั้งเดิมของเรียวกัง เพราะการแช่น้ำพุร้อน หรือการจองห้องพักสุดหรู ณ ที่แห่งนี้ จะทำให้คุณประทับใจจนลืมไม่ลง!