แผนการเดินทาง
ค้นหาเสน่ห์การผจญภัยที่ซ่อนเร้นในอาชิการะ จังหวัดคานากาวะ
ถัดจากชายหาดที่เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายๆ คน และห่างจากใจกลางเมืองไปไม่ไกลนัก ก็ยังมีอีกฝากหนึ่งที่เงียบสงบของคานากาวะ นั่นคือป่าบนภูเขาและแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ ที่ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายคนมองข้ามไป พื้นที่แห่งนี้ไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่จะมอบประสบการณ์การผจญภัยที่แตกต่างออกไป สำหรับผู้ที่ต้องการมากกว่าการท่องเที่ยวตามเส้นทางปกติ คานากาวะสามารถพาคุณเข้าสู่สถานที่ที่ธรรมชาติและสถานที่ทางประวัติศาสตร์ต่างรวมกันได้อย่างไม่คาดคิด และอาชิการะก็เป็นหนึ่งในจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการสัมผัสประสบการณ์เหล่านั้น
อาชิการะตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดคานากาวะ เป็นพื้นที่ที่มีชื่อเสียงในด้านป่าสนที่มีซีดาร์หนาแน่น เนินภูเขาไฟ และเส้นทางวัฒนธรรมที่เชื่อมต่อกับฮาโกเนะมายาวนาน อาชิการะตั้งอยู่ระหว่างช่องเขาของจังหวัดคานากาวะและชิซุโอกะ และเป็นที่ตั้งของอุทยานธรรมชาติและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สะท้อนทั้งความงามตามธรรมชาติ และบทบาทในฐานะจุดตัดของนักเดินทางและผู้แสวงบุญมาหลายศตวรรษ
นี่คือสถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งส่วนหนึ่งของอาชิการะ ที่จะมาเพิ่มความหลากหลายและความน่าสนใจให้กับทริปคานากาวะของคุณ
การผจญภัยแสนสนุกที่มารุตะ โนะ โมริ
ในเนินเขาป่าอันเงียบสงบของมินามิ อาชิการะ ที่สวนป่าอาชิการะ – มารุตะ โนะ โมริ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวกลางแจ้งที่น่าประทับใจที่สุดในจังหวัดคานากาวะ ครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ประมาณ 5 เท่าของโตเกียวโดม สวนป่าแห่งนี้ผสมผสานธรรมชาติและการพักผ่อนหย่อนใจ ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับครอบครัวและผู้รักกิจกรรมกลางแจ้ง ที่นี่คุณสามารถหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองใหญ่ไปสู่จังหวะอันสงบเงียบของเส้นทางเดินป่า ลำธารที่ไหลเอื่อย และร่มเงาเขียวชอุ่มที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างสวยงามในแต่ละฤดูกาล
เส้นทางเดินทอดยาวไปทั่วทั้งบริเวณ นำนักท่องเที่ยวสำรวจผ่านต้นไม้สูงตระหง่านและดอกไม้ตามฤดูกาล เหมาะสำหรับการเดินเล่นสบายๆ ท่ามกลางธรรมชาติในร่มเงา หรือเส้นทางเดินป่าระยะยาว จุดเด่นต่างๆ ได้แก่ สวนดอกไม้ป่า สวนพฤกษศาสตร์ สะพานแขวน และจุดชมใบไม้เปลี่ยนสี ทำให้ที่นี่นับได้ว่าเป็นจุดแวะพักที่สวยงามตามแต่ละฤดูกาล
ครอบครัวที่มีเด็กสามารถเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมกลางแจ้งหลากหลายประเภทที่ออกแบบมาสำหรับทุกวัย สวนผจญภัยสำหรับเด็กที่มีโครงสร้างสนามเด็กเล่นไม้สำหรับเด็กก่อนวัยเรียน มอบพื้นที่ปลอดภัยให้เหล่านักสำรวจตัวน้อยให้ได้ปีนป่ายและเล่นสนุก สำหรับการเข้าพักระยะยาว สวนแห่งนี้มีพื้นที่สำหรับตั้งแคมป์ บังกะโล และที่ตั้งเต็นท์บนพื้นไม้ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับปิ้งย่าง นอกจากนี้ที่แม่น้ำคาซูสะที่อยู่ใกล้เคียง ก็ไม่ได้ลึกมากนัก ทำให้สามารถเล่นน้ำได้อย่างสนุกสนานและปลอดภัยในช่วงฤดูร้อน ทำให้สวนแห่งนี้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่ชื่นชอบกิจกรรมกลางแจ้ง
นอกจากนี้มารุตะ โนะ โมริ ยังอนุรักษ์ชิ้นส่วนของประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ซึ่งช่วยเพิ่มมิติให้กับป่าแห่งนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวอย่างที่โดดเด่นที่สุด คือ อดีตโรงเรียนประถมฟุคุซาวะ ซึ่งเป็นอาคารเรียนไม้ที่ได้รับการอนุรักษ์ดูแลไว้อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถสำรวจภายในอาคาร ที่จะชวนให้ที่ทุกท่านได้หวนคิดถึงอดีต (หากต้องการถ่ายภาพ จะต้องขออนุญาตก่อน) เมื่อรวมกับธรรมชาติโดยรอบและผนวกกับบ้านเก่าบางหลังที่คุณสามารถเยี่ยมชมได้อย่างอิสระ อาคารประวัติศาสตร์แห่งนี้จึงมอบความสงบสุขที่แตกต่างจากโซนที่คึกคักอื่นๆ ของอุทยาน
นอกจากนี้มารุตะ โนะ โมริยังมีกิจกรรมสะสมแสตมป์สุดพิเศษสำหรับนักสำรวจผู้ช่างสงสัย โดยมีแสตมป์ 12 ดวงที่ตรงกับจุดที่มีเครื่องหมายดาว 12 จุด ซึ่งจะนำทางผู้มาเยือนผ่านสวน เส้นทางในป่า สะพาน และจุดชมวิวตามฤดูกาลต่างๆ ราวกับเป็นการผจญภัยขนาดเล็กที่ช่วยให้คุณค้นพบมุมที่ซ่อนอยู่ระหว่างทาง
หากคุณได้เตรียมแผนการท่องเที่ยวมาแล้ว การเดินทางมาที่นี่นั้นก็ไม่ใช่เรื่องยาก: เพียงขึ้นรถไฟสายโอดะคิวไปลงสถานีชิน-มัตสึดะ หรือสายไดยุซันไปลงสถานีไดยุซัน แล้วต่อรถประจำทางท้องถิ่นไปยังมารุตะ โนะ โมริ อิริกุจิ หรือเดินทางโดยรถยนต์โดยใช้ทางด่วนโทเมะอิ ทางออกโออิมัตสึดะ ซึ่งอยู่ห่างจากสวนสาธารณะเพียง 15-20 นาที และมีที่จอดรถในบริเวณสวนสาธารณะให้บริการ
ร้านอาหารกลางวันแบบเร่งด่วนที่จุฮาโชเมะ ชายะ ไบเท็น
ร้านจุฮาโชเมะ ชายะ ไบเท็น (十八丁目茶屋売店) ตั้งอยู่ริมเส้นทางป่าที่นำไปสู่วัดไดยุซัน ไซโจจิ เป็นร้านน้ำชาบนภูเขาแบบดั้งเดิม พร้อมเสิร์ฟช่วงเวลาแห่งหารพักผ่อนให้กับผู้ที่มาเยือน โดยมีเมนูอาหารพื้นเมืองที่คุ้นเคยให้เลือกมากมาย ร้านนี้สะท้อนเสน่ห์ของวัฒนธรรมภูเขาแบบดั้งเดิม เสิร์ฟอาหารญี่ปุ่นท้องถิ่นแสนอร่อยในบรรยากาศอบอุ่นเป็นกันเอง
เมนูของร้านมีเส้นให้เลือกหลากหลาย ทั้งคาเกะ โซบะ/อุด้ง, ทานุกิ โซบะ, สึคิมิ,อุด้ง, ซันไซ (ผักภูเขา)โซบะ/อุด้ง และเทมปุระโซบะ/อุด้งยอดนิยม ส่วนข้าวก็มีข้าวแกงกะหรี่, เทนด้ง (เทมปุระชามใหญ่) และมุกิโทโระ เทะอิโชคุ (ข้าวบาร์เลย์กับมันเทศขูด) ซึ่งเป็นอาหารพื้นเมืองที่ทำให้อิ่มท้อง แต่ไม่หนักท้อง เป็นที่นิยมในหมู่นักเดินป่า
สำหรับของว่างและเครื่องเคียง ทางร้านมีโอเด้ง, มิโซะ โอเด้ง และยามาอิโมะ โนริ-มากิ (มันเทศภูเขาห่อสาหร่าย) ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นต่างยกให้ซันไซ โซบะ, เทมปุระ โซบะ และโอเด้งเป็นเมนูเด็ดของที่ร้าน เพราะเป็นอาหารที่ให้ความอบอุ่นและช่วยเติมพลังหลังจากปีนเขา ข้าวแกงกะหรี่และเทนด้งก็เป็นอีกเมนูที่อิ่มท้องและเหมาะสำหรับคนที่ต้องการพลังงานก่อนเดินเข้าไปในบริเวณวัดต่อ
ร้านจุฮาโชเมะ ชายะ ไบเท็น เป็นจุดแวะพักที่อบอุ่นทั้งในฤดูร้อนและฤดูหนาว ด้วยเสน่ห์แบบชนบทและบรรยากาศที่เป็นกันเอง ไม่ยุ่งยากซับซ้อน บวกกับอาหารเรียบง่าย แต่เป็นที่ชื่นชอบ ทำให้การมาเยือนวัดไซโจจิและป่าอาชิการะโดยรอบเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ
สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากมารุตะ โนะ โมริ การเดินทางมายังร้านนั้นง่ายมาก: จากสวนสาธารณะให้เดินตามถนนในป่ากลับไปยังเส้นทางรถประจำทางสายหลัก และมุ่งหน้าไปยังวัดไดยุซัน ไซโจจิ โดยร้านจะตั้งอยู่ก่อนถึงทางเข้าด้านบนของวัดเล็กน้อย สำหรับผู้ที่เดินทางมาโดยระบบขนส่งสาธารณะ สามารถขึ้นรถไฟสายไดยุซันไปยังสถานีไดยุซัน จากนั้นขึ้นรถประจำทางท้องถิ่นไปยังป้ายรถประจำทางไซโจจิ จากป้ายนั้นจะพบกับร้านและทางเข้าวัดซึ่งอยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวบนเนินเขา
ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ที่วัดไดยุซัน ไซโจจิ
วัดไดยุซัน ไซโจจิ ตั้งอยู่ลึกเข้าไปในเทือกเขาซีดาร์อันร่มรื่นของมินามิ-อาชิการะ เป็นหนึ่งในสถานที่ทางจิตวิญญาณที่มีบรรยากาศงดงามที่สุดแห่งหนึ่งของคานากาวะ วัดนิกายโซโตะเซนแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นเมื่อกว่า 600 ปีที่แล้ว มีชื่อเสียงในเรื่องเส้นทางเดินป่าอันเงียบสงบและต้นไม้โบราณสูงตระหง่าน ถือเป็นหนึ่งในวัดสำคัญของพุทธศาสนานิกายโซโตะ เซ็น รองจากวัดเอออิเฮจิในฟุกุอิและวัดโซจิจิในสึรุมิ
ที่สำคัญที่สุดคือวัดไซโจจิสร้างขึ้นเพื่อให้เกียรติแก่โดเรียว ไดเกียวจิน ผู้พิทักษ์ในตำนาน ซึ่งมีการเฉลิมฉลองการปรากฏตัวของท่านผ่านรูปปั้นเท็นกุต่างๆ ที่ตั้งกระจายอยู่ทั่วบริเวณวัด ผู้มาเยือนจะได้พบกับรูปปั้นเท็นกุจมูกยาวสูงตระหง่าน ซึ่งเชื่อกันว่ามีพลังวิญญาณอันยิ่งใหญ่ รวมถึงเท็นกุปากอีกาขนาดเล็กที่เกี่ยวข้องกับความคล่องแคล่วและการบิน วัดแห่งนี้ยังมีรูปปั้นหินที่บอกเล่าเรื่องราวของโดเรียวที่แปลงร่างเป็นเท็นกุ หลังจากเจ้านายของเขาเสียชีวิต โดยให้คำมั่นว่าจะปกป้องภูเขาตลอดไป แม้แต่รองเท้าเกตะไม้ขนาดใหญ่ที่จัดแสดงอยู่รอบวัดก็ยังอ้างอิงถึงตำนานนี้ โดยเป็นสัญลักษณ์ของก้าวเดินอันเหนือธรรมชาติของเท็นกุ และเป็นการอวยพรให้เกิดความสามัคคีและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น
พื้นที่ของวัดนั้นกว้างขวางมาก มีศาลา รูปปั้น และทางเดินของพระสงฆ์มากมายกระจายอยู่ทั่วเนินเขา ทางขึ้นไปยังศาลาด้านบน รวมถึงโอคุโนะอิน จะมอบทัศนียภาพอันงดงามของต้นสนซีดาร์ที่สูงตระหง่านและสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ของวัดไซโจจิ ผู้มาเยือนมักพูดถึงความสงบเงียบของวัด ให้ความรู้สึกว่ายิ่งปีนขึ้นไปลึกเท่าไหร่ โลกภายนอกก็ยิ่งจางหายไปในความเงียบสงบมากขึ้นเท่านั้น
ทุกเดือนพฤศจิกายน วัดไดยุซัน ไซโจจิจะกลายเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามที่สุดในมินามิ-อาชิการะ ด้วยเทศกาลแสงไฟอาชิการะประจำปี ในช่วงเวลาราวปลายเดือนพฤศจิกายน ป่าสนซีดาร์สูงตระหง่านและต้นเมเปิลสีสันสดใสของวัดจะถูกประดับประดาด้วยแสงไฟตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ ไปจนถึงเย็น เปลี่ยนบริเวณที่เงียบสงบอยู่แล้วให้กลายเป็นภูมิทัศน์ที่เปล่งประกายด้วยสีทอง สีเหลืองอำพัน และสีแดงเข้ม นักท่องเที่ยวสามารถเดินไปยังทางเข้าวัด สำรวจเส้นทางที่ประดับด้วยโคมไฟ และเพลิดเพลินไปกับโอกาสอันหาได้ยากในการสัมผัสบรรยากาศอันศักดิ์สิทธิ์ของไซโจจิหลังพระอาทิตย์ตกดิน
งานนี้ยังรวมถึงเวิร์คช็อปขนาดเล็ก การจัดแสดงงานฝีมือท้องถิ่น และแผงขายของที่จำหน่ายขนมและผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ทำให้เป็นทั้งประสบการณ์การชมใบไม้เปลี่ยนสีและการเฉลิมฉลองวัฒนธรรมชุมชนของอาชิการะ สำหรับผู้ที่อยากจะนำของที่ระลึกที่ไม่เหมือนใครกลับบ้าน ที่นี่ก็มีการจัดแสดงงานฝีมือมีเครื่องประดับไม้และรูปปั้นเรืองแสงที่ได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิทัศน์และนิทานพื้นบ้านของอาชิการะ นักท่องเที่ยวที่มองหาของที่ระลึกเกี่ยวกับวัดยังสามารถชมสินค้าอย่างเป็นทางการของวัดไซโจจิ เช่น พวงกุญแจเท็นกุเกตะ เสื้อยืดลายเท็นกุ และสมุดตราประทับแดงของวัด ซึ่งมีจำหน่ายในสถานที่หรือผ่านทางเว็บไซต์ https://daiyuuzan.or.jp/english/
ด้วยขนาดที่ใหญ่ ประวัติศาสตร์ความเป็นมาอันยาวนาน และตำนานเล่าขานที่ฝังรากลึกของวัดไดยุซัน ไซโจจิ ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่คุ้มค่าแก่การค่อยๆ สำรวจ และการประดับไฟตามฤดูกาลก็ช่วยเพิ่มโอกาสอันหาได้ยากในการชมเส้นทางที่เรียงรายไปด้วยต้นซีดาร์ที่ให้ความรู้สึกเปลี่ยนไปในยามพลบค่ำ หลังจากใช้เวลาช่วงเช้าในป่าอาชิการะ และรับประทานอาหารเรียบง่ายที่ร้านจุฮาโชเมะ ชายะ การปิดท้ายวันด้วยการเยี่ยมชมวัดไซโจจิจะทำให้ประสบการณ์สุดพิเศษนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น แสดงให้เห็นว่าภูมิภาคเล็กๆ แห่งนี้ในจังหวัดคานากาวะมีความลึกซึ้งมากกว่าขนาดที่เห็นได้ชัด
อย่าลืมเผื่อเวลาที่จะเดินชมบริเวณวัด ชื่นชมความเงียบสงบของภูเขา และซึมซับเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอาชิการะเมื่อคุณมาเยือนที่นี่